ข่าวราคาทองคำ 4 มีนาคม 2563 (ภาคบ่าย)

ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ขึ้นทดสอบ 1,652.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะย่อตัวลงมาเล็กน้อย แต่ยังรักษาช่วงบวกไว้ได้ต่อจากวานนี้ ขานรับเฟดเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการ ลดอัตราดอกเบี้ย 50bps (0.50%) เหลือ 1-1.25% เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยแบบฉุกเฉิน (Emergency cut) นอกรอบการประชุม เฟด ครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2008

ขณะที่เช้านี้แบงก์ชาติฮ่องกง ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 2.00% สู่ระดับ 1.50% แม้ว่าธนาคารกลางทั่วโลกพยายามออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ บรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไม่ได้ตอบรับเชิงบวก หลังดัชนีหุ้นสหรัฐที่สําคัญทั้ง 3 ปิดร่วงเกือบ 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นเอเชียยังคงอ่อนแอ

นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาทรุดหนัก โดย PMI ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทําร่วมกับไฉซินออกมาที่ระดับ 26.5 ในเดือนก.พ. ลดลงจาก 51.8 ในเดือนม.ค. และนับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบเกือบ 15 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก ยิ่งเพิ่มความวิตก เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย จึงกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้ามายังตลาดทองคํา จึงแนะนํา ติดตาม PMI ของอีกหลายประเทศที่จะประกาศในวันนี้ ทั้งฝั่งยุโรป,สหรัฐ และจับตาตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ช่วง 3 วันที่ทําการผ่านมา ราคาทองคําแกว่งตัวผันผวน แม้ว่าจะมีแรงขายกดดันให้ราคาทิ้งตัวลง แต่ราคาก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ จนเคลื่อนไหวในระดับสูง ดังนั่นในระยะสั่นหากราคาทองคําทดสอบแนวต้านที่ 1,656-1,663ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้ายังไม่สามารถผ่านได้อาจเกิดแรงขายทํากําไรระยะสั้นออกมา อย่างไรก็ตามหากราคายังสามารถเคลื่อนไหวเหนือโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,635-1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมกําลังในช่วงสั้น แนะนํากลยุทธ์การลงทุนโดย เข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงไม่หลุดบริเวณ1,635-1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ชะลอการซื้อหากราคาหลุด 1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาดีดตัวขึ้นให้พิจารณาโซน 1,656-1,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดทํากําไร แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 23 มกราคม 2563 (ภาคเช้า)

ราคาทองคําวานนี้ ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง ในระหว่างวันราคาทองคําอ่อนตัวลงโดยได้รับแรงกดดันจากสินทรัพย์เสี่ยงในตลาดเอเชียที่ฟื้นตัวขึ้น หลังรัฐบาลจีนมีการดําเนินการต่างๆในการรับมือกับการแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาได้อย่างรวดเร็ว ซึ่งกระตุ้นทัศนะบวกที่ว่าการแพร่ระบาดของโรคจะสามารถควบคุมได้ นั่นช่วยให้ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีน และดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงปิดตลาดวานนี้ ในแดนบวก จนกดดันทองคําที่อยู่ในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย ก่อนที่แรงซื้อทองคําจะหนุนให้ราคาค่อยๆขยับขึ้น อย่างไรก็ดี ราคาทองคําในตลาดสหรัฐถูกสกัดช่วงบวกจากการเปิดเผยตัวเลข ยอดขายบ้านมือสองของสหรัฐที่พิ่มขึ้นเกิดคาดสู่ระดับ5.54 ล้านยูนิตในเดือนธ.ค. ซึ่งเป็นระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2018 สําหรับวันนี้ติดตามผลการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) คาด ECB จะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเดิม แต่แนะนําติดตามแถลงการณ์ของนาง Christine Lagarde ประธาน ECB ซึ่งมุมมองเกี่ยวกับเศรษฐกิจในยูโรโซนและแนวโมการดําเนินนโยบายการเงินในอนาคตของ ECB อาจส่งผลต่อการเคลื่อนไหวของสกุลเงินยูโรและทองคําได้ พร้อมกับติดตามการเปิดเผยจํานวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์ และดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคเดือนธ.ค.จาก CB ของสหรัฐ
ที่มา ylgbullion.co.th

ข่าวราคาทองคำ 25 มิถุนายน 2562 (ภาคค่ำ)

การจัดทําประชาพิจารณ์ (public hearing) ของสํานักงานผู้แทนการค้าสหรัฐ เกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการขึ้นภาษี 25% ต่อสินค้านําเข้าจากจีนที่เหลือทั้งหมดซึ่งมีมูลค่า 3 แสนล้านดอลลาร์กําลังจะเสร็จสิ้นลงในวันที่ 2 ก.ค.นี้ ท่ามกลางเสียงคัดค้านจากผู้บริหารอุตสาหกรรมเทคโนโลยีว่าการเก็บภาษีจะทําให้ราคาค้าปลีกโทรศัพท์มือถือเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 70 ดอลลาร์ ขณะที่ราคาทองจะเพิ่มขึ้น 120 ดอลลาร์ และเครื่องเล่นวิดีโอเกมเพิ่มขึ้น56 ดอลลาร์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อยอดขายสินค้าเทคโนโลยีในสหรัฐ นอกจากนี้ ยังเกิดความวิตกเพิ่มขึ้นว่า สหรัฐและจีนอาจไม่มีความคืบหน้าในการหารือการค้าสัปดาห์นี้ สถานการณ์ดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงจนสร้างแรงหนุนให้กับตลาดทองคําเพิ่มเติม ทั้งนี้ แนะนําให้รอจังหวะเข้าซื้อบริเวณแนวรับ 1,422-1,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ตัดขาดทุนหากหลุด 1,411 ดอลลาร์ต่อออนซ์) และนักลงทุนที่มีทองคําในมือ อาจขายบางส่วนหากราคาทองคําขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,439-1,447 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองผ่านบริเวณแนวต้านดังกล่าว อาจชะลอการขายไปยังโซนแนวต้านถัดไป อย่างไรก็ตาม นักลงทุนยังจําเป็นต้องประเมินขนาดการลงทุนในแต่ละรอบ เพื่อที่จะสามารถคํานวณความเสี่ยงในการลงทุนในแต่ละครั้งให้อยู่ในขนาดที่พอร์ตการลงทุนสามารถแบกรับได้ ที่มา ylgbullion.co.th

>> อัพเดตราคาทองวันนี้

 

บทวิเคราะห์ราคาทองคำ 25 กุมภาพันธ์ 2562(ภาคค่ำ)

ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ระบุในรายงานนโยบายการเงินรายครึ่งปี ต่อสภาคองเกรสว่า เศรษฐกิจสหรัฐเติบโตอย่าง “แข็งแกร่ง” ตลอดช่วงครึ่งหลังของปี  2018 โดยมีแนวโน้มขยายตัวตํ่ากว่า 3% เพียงเล็กน้อยในปีดังกล่าว แต่การใช้จ่ายของผู้บริโภคและธุรกิจเริ่มอ่อนแอลง อีกทั้งเฟดยังยอมรับว่า การปิด ดําเนินการรัฐบาลบางส่วนของสหรัฐ (ชัตดาวน์) นาน 35 วัน “มีแนวโน้มถ่วงการเติบโตของจีดีพีในไตรมาสแรกของปี 2019 แม้ว่ามุมมองดังกล่าวจะส่งผลบวก ต่อราคาทองคํา แต่นักลงทุนรอการแถลงของนายเจอโรม พาวเวลล์ ประธานเฟด เกี่ยวกับเศรษฐกิจและนโยบายการเงินต่อคณะกรรมาธิการการธนาคารประจํา วุฒิสภาในคืนวันอังคารและแถลงต่อคณะกรรมาธิการบริการการเงินประจําสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐในคืนวันพุธนี้ ทั้งนี้ในระยะสั้นหากราคาทองคํามีการปรับตัวลดลงมาไม่หลุดแนวรับ นักลงทุนสามารถเข้าซื้อเก็งกําไรระยะสั้นโดยประเมินแนวรับไว้ที่ 1,321-1,314 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทองคําไม่หลุดแนวรับราคาทองคําจะพยายามปรับตัวขึ้นโดยให้จับตาโซนแนวต้านระดับ 1,335 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากราคาทดสอบและยังไม่สามารถขึ้นไปยืนได้นักลงทุนที่รับความเสี่ยงได้น้อยอาจแบ่งขายบางส่วนในลักษณะทยอยทํากําไรออกมาเมื่อราคาขยับขึ้น ที่มา ylgbullion.co.th

>> อัพเดตราคาทองวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทอง ภาคค่ำ 21 มกราคม 2562

นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษเตรียมแถลง แผนเบร็กซิทฉบับใหม่ ต่อสภาสามัญชนช่วงบ่ายวันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น หรือ คืนนี้ตามเวลาประเทศไทย เพื่ออธิบายแนวทางในการดําเนินการกับร่างข้อตกลงในการถอนตัวของอังกฤษออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวระดับสูงของสหภาพยุโรป (EU) เรียกแผนการใหม่ว่าเป็นแผนที่ไม่มีโอกาสประสบความสําเร็จ ในขณะที่แหล่งข่าวรัฐบาลอังกฤษไม่แน่ใจว่า แผนดังกล่าวจะได้ผลหรือไม่เพราะอาจสร้างความขัดแย้ง และต้องได้รับความยินยอมจากทุกพรรคการเมืองที่เกี่ยวข้องกับไอร์แลนด์เหนือ มุมมองดังกล่าวกดดัน สกุลเงินปอนด์ และสกุลเงินยูโร ซึ่งกดดันราคาทองคํา ให้เคลื่อนไหวใกล้ระดับตํ่าสุดในรอบ 1 สัปดาห์ นอกจากนี้ ตลาดทุนและตลาดการเงินต่างๆของสหรัฐปิดทําการในวันจันทร์ เนื่องในวันรําลึกมาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ส่งผลให้ราคาทองคํามีลักษณะการเคลื&อนไหวในกรอบแคบ ทั้งนี้ แนะนําว่าเมื่อราคาทองคําขึ้นทดสอบแนวต้าน 1,295-1,299 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากไม่สามารถผ่านไปได้แนะนําขายทํากําไรบางส่วน โดยนักลงทุนอาจรอเข้าซื้อเมื่อราคามีการย่อตัวเข้าใกล้บริเวณแนวรับ 1,279-1,276 ดอลลาร์ต่อออนซ์ โดยเน้นการทํากําไรระยะสั้นจากการแกว่งตัวเพื่อรอดูทิศทางของราคาทองคําอีกครั้ง ที่มา ylgbullion

>> อัพเดตราคาทองวันนี้

บทวิเคราะห์ ราคาทองวันนี้ 11 กย 61

ราคาทองคํา ปิดทรงตัวแทบไม่เปลี่ยนแปลง แม้ว่าราคาทองคําจะได้รับแรงหนุนจากสกุลเงินปอนด์และยูโรที่แข็งค่าขึ้นจนกดดันให้สกุลเงินดอลลาร์อ่อนค่าลง หลังนายมิเชล บาร์นิเยร์ ตัวแทนเจรจาฝ่ายสหภาพยุโรป (EU) ในประเด็นการแยกตัวของอังกฤษออกจาก EU (Brexit)

คาดว่ามีความเป็นไปได้ที่อังกฤษจะสามารถบรรลุ ข้อตกลงกับสหภาพยุโรป (EU) เกี่ยวกับการแยกตัวออกจาก EU (Brexit) ภายใน 6-8 สัปดาห์นี้

ขณะที่ภาพรวมราคาทองคํายังคงฟื้นตัวขึ้นในกรอบจํากัด โดยได้รับแรงกดดันจากแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ ยในการประชุมวันที่ 25-26 ก.ย.นี้ บวกรวมกับความวิตกเกี่ยวกับสงครามการค้าระหว่างสหรัฐและจีน

หลังจากล่าสุดนายเกิง ชวง โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน กล่าวว่า จีนพร้อมจะตอบโต้สหรัฐทันทีหากสหรัฐเรียกเก็บภาษีนําเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ หลังประธานาธิบดี ทรัมป์ ออกมาขู่จะเก็บภาษีนําเข้าสินค้าจีนรอบใหม่วงเงิน 2.67 แสนล้านดอลลาร์นอกเหนือจากที่มีแผนเรียกเก็บภาษีสินค้าจีนวงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ สถานการณ์ดังกล่าวยังคงกดดันหยวนเมื่อเทียบกับดอลลาร์ซึ่งส่งผลเชิงลบต่อราคาทองคํา สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยดัชนีภาวะธุรกิจขนาดเล็กเดือนส.ค. จาก NFIB, สต็อกสินค้าคงคลังภาคค้าส่งเดือนก.ค. และตําแหน่งงานว่างเปิดใหม่ (JOLTS Job Openings)ของสหรัฐ ที่มา ylgbullion

>> ราคาทองวันนี้

บทวิเคราะห์ ราคาทองวันนี้ 31 กค 61

บทวิเคราะห์ ราคาทองวันนี้

ราคาทองคําวานนี้ ปิดปรับตัวลดลง 2.48 ดอลลาร์ต่อออนซ์ถึงแม้จะได้รับแรงหนุนจากดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงขานรับการคาดการณ์ที่ว่าธนาคารกลางญี่ปุ่น (BOJ)จะปรับลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินในการประชุมที่จะเสร็จสิ้นลงในวันนี้ ซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันดอลลาร์/เยน

อย่างไรก็ตามแรงซื้อในตลาดราคาทองทองคํายังไม่มากพอที่จะดันให้ราคาปรับตัวสูงขึ้น สะท้อนจากข้อมูลของ CFTC ที่รายงานว่าในสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที& 24 ก.ค.กองทุนเฮดจ์ฟันและผู้จัดการกองทุนได้เพิ่มสถานะขาย (Short positions) สัญญาฟิวเจอร์สทองคําตลาด COMEX ขึ้นสู่ระดับ 146,671 สัญญา ทําให้สถานะขายสุทธิในตลาดเพิ่มขึ้นจากสัปดาห์ก่อนหน้าสู่ระดับ 36,422 สัญญา บ่งชี้ถึงการคาดการณ์เชิงลบในตลาดทองคําที่ยังคงอยู่ในระดับสูงสําหรับวันนี้

ติดตามผลการประชุม BOJ ว่าจะมีการปรับลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินหรือไม่ หากเป็นไปตามคาดอาจกดดันดอลลาร์/เยนต่อซึ่งจะเป็นปัจจัยหนุนราคาทองคํา แต่หาก BOJ ไม่ปรับลดการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงินอาจหนุนให้ดอลลาร์แข็งค่าขึ้นซึ่งจะเป็นปัจจัยกดดันราคาทองคํา อีกทั้งต้องติดตามการเปิดเผยดัชนี PCE,การบริโภคและรายได้ส่วนบุคคล, ดัชนี PMI เขตชิคาโกและดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคจาก CB ที่มา ylgbullion

>> ราคาทองวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทอง เช้า 19 มิย 61

บทวิเคราะห์ราคาทอง ภาคเช้า

ราคาทอง วานนี้ ปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นเล็กน้อย โดยราคาทองคําได้รับแรงหนุนจากความต้องการทองคําในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัย

ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการทําสงครามทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีน หลังจากทั้งสองประเทศผลัดกันออกมาตรการทางภาษีเพื่อตอบโต้ระหว่างกัน (tit-for-tat) ความวิตกดังกล่าวกดดันการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงทั่วโลก

ขณะที่ดัชนีดาวโจนส์ปิดในแดนลบติดต่อกันเป็นวันทําการที่ 5 ซึ่งส่งผลเชิงบวกให้ราคาทองคําฟื้นตัวขึ้นจากจุดตํ่าสุดในรอบ 5 เดือนครึ่ง

อย่างไรก็ตามการปรับตัวขึ้นของราคาทองคํายังคงถูกสกัดไว้ด้วยดอลลาร์ซึ่งยังคงเคลื่อนไหวใกล้ระดับสูงสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย.จากการเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยรวม 4 ครั้งในปีนี้ ของธนาคารกลางสหรัฐ(เฟด)

สําหรับวันนี้ ติดตามการเปิดเผยการอนุญาตก่อสร้างและตัวเลขการเริ่มสร้างบ้านของสหรัฐ และยังคงต้องติดตามประเด็นความขัดแย้งทางการค้าระหว่างสหรัฐและจีนอย่างใกล้ชิด

โดยล่าสุดประธานาธิบดีทรัมป์ เปิดเผยว่า เขาได้ขอให้ผู้แทนการค้าสหรัฐตรวจสอบรายการสินค้าจีนที่ควรถูกเก็บภาษีนําเข้าเพิ่มเติม และขู่ที่จะเรียกเก็บภาษีนําเข้าสินค้าจีนรอบใหม่ในอัตรา 10% วงเงิน 2 แสนล้านดอลลาร์ ที่มา ylgbullion

 

บทวิเคราะห์ราคาทอง ภาคบ่าย 080518

ราคาทองวันนี้

บทวิเคราะห์ราคาทองคำภาคบ่ายวันนี้

ติดตามบทวิเคราะห์ราคาทอง

ราคาทองคำช่วงเช้าปรับตัวลง โดยได้รับแรงกดดันจากดัชนีดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น หลังยูโรร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบกว่า 4 เดือน เมื่อพรรคการเมืองของอิตาลียังไม่บรรลุผลในการจัดตั้งรัฐบาล จึงทำให้อิตาลีอาจต้องจัดการเลือกตั้งใหม่อีกครั้ง สภาวะทางการเมืองที่ไร้เสถียรภาพจึงยังดำเนินต่อไป

สำหรับคืนนี้ติดตามแถลงการณ์ของปธน.ทรัมป์ของสหรัฐ 01.00 น.ตามเวลาไทย ว่าทรัมป์จะประกาศตัดสินใจเกี่ยวกับข้อตกลงนิวเคลียร์อิหร่านอย่างไร ขณะที่อิหร่านกล่าวเป็นนัยว่าจะยังอยู่ในข้อตกลงดังกล่าวต่อไป แม้ว่าสหรัฐจะถอนตัวก็ตาม แต่ปัจจัยดังกล่าวมีความไม่แน่นอนสูง นักลงทุนจึงต้องจับตาแถลงการณ์ของปธน.ทรัมป์อย่างใกล้ชิด

หากถ้อยแถลงของทรัมป์ไม่รุนแรงมากนัก ประเมินว่าตลาดได้รับรู้ปัจจัยดังกล่าวไปในระดับหนึ่งแล้ว อาจส่งผลให้ทองคำในฐานะสินทรัพย์ปลอดภัยเผชิญแรงขายทำกำไร แต่หากถ้อยแถลงของทรัมป์สร้างความขัดแย้งและความตึงเครียดเพิ่มขึ้น จะเป็นปัจจัยกระตุ้นแรงซื้อทองคำได้เช่นกัน

ส่วนค่าเงินบาทที่แกว่งตัวในทิศทางอ่อนค่า อันเนื่องมาจากดอลลาร์ที่แข็งค่าและกระแสเงินทุนต่างชาติไหลออกอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยหนุนราคาทองคำในประเทศ ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ราคาทองคำปรับตัวลงค่อนข้างมากในช่วงที่ผ่านมาและก่อนหน้านี้มีแรงช้อนซื้อเก็งกำไรสลับเข้ามา เบื้องต้น

หากราคาทองคำยังไม่สามารถยืนเหนือ 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ นักลงทุนต้องระมัดระวังแรงขายทำกำไรที่อาจเพิ่มขึ้น ซึ่งอาจกดดันราคาทองคำให้ลงสู่แนวรับในระดับ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้  แนะนำกลยุทธ์การลงทุน หากราคาทองคำดีดตัวขึ้นแต่ไม่สามารถยืนเหนือโซนแนวต้าน 1,326 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ให้แบ่งทองคำออกขายเพื่อทำกำไรบางส่วน แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป สำหรับผู้ที่ไม่มีทองคำในมือรอดูบริเวณ 1,310-1,302 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หากสามารถยืนได้อย่างมั่นคงถือเป็นจุดซื้อเก็งกำไรระยะสั้นอีกครั้ง ที่มา ylgbullion