ราคาทองคําช่วงเช้าวันนี้ขึ้นทดสอบ 1,652.81 ดอลลาร์ต่อออนซ์ ก่อนที่จะย่อตัวลงมาเล็กน้อย แต่ยังรักษาช่วงบวกไว้ได้ต่อจากวานนี้ ขานรับเฟดเซอร์ไพรส์ตลาดด้วยการ ลดอัตราดอกเบี้ย 50bps (0.50%) เหลือ 1-1.25% เมื่อวานนี้ (3 มี.ค.) ซึ่งเป็นการลดดอกเบี้ยแบบฉุกเฉิน (Emergency cut) นอกรอบการประชุม เฟด ครั้งแรกนับตั้งแต่วิกฤติการเงินปี 2008
ขณะที่เช้านี้แบงก์ชาติฮ่องกง ลดอัตราดอกเบี้ยจาก 2.00% สู่ระดับ 1.50% แม้ว่าธนาคารกลางทั่วโลกพยายามออกมาตรการพยุงเศรษฐกิจ บรรเทาผลกระทบจากการระบาดของไวรัสโควิด-19 แต่จะเห็นได้ว่าตลาดหุ้นไม่ได้ตอบรับเชิงบวก หลังดัชนีหุ้นสหรัฐที่สําคัญทั้ง 3 ปิดร่วงเกือบ 3% เมื่อคืนที่ผ่านมา ขณะที่หุ้นเอเชียยังคงอ่อนแอ
นอกจากนี้ ตัวเลขเศรษฐกิจจีนออกมาทรุดหนัก โดย PMI ภาคบริการของจีน ซึ่งมาร์กิตจัดทําร่วมกับไฉซินออกมาที่ระดับ 26.5 ในเดือนก.พ. ลดลงจาก 51.8 ในเดือนม.ค. และนับเป็นการหดตัวครั้งแรกในรอบเกือบ 15 ปี นับตั้งแต่เกิดวิกฤตการเงินโลก ยิ่งเพิ่มความวิตก เกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจถดถอย จึงกระตุ้นแรงซื้อกลับเข้ามายังตลาดทองคํา จึงแนะนํา ติดตาม PMI ของอีกหลายประเทศที่จะประกาศในวันนี้ ทั้งฝั่งยุโรป,สหรัฐ และจับตาตัวเลขการจ้างงานภาคเอกชนเดือนก.พ.จาก ADP ด้านปัจจัยทางเทคนิคประเมินว่า ช่วง 3 วันที่ทําการผ่านมา ราคาทองคําแกว่งตัวผันผวน แม้ว่าจะมีแรงขายกดดันให้ราคาทิ้งตัวลง แต่ราคาก็สามารถดีดตัวกลับขึ้นมาได้ จนเคลื่อนไหวในระดับสูง ดังนั่นในระยะสั่นหากราคาทองคําทดสอบแนวต้านที่ 1,656-1,663ดอลลาร์ต่อออนซ์ แต่ถ้ายังไม่สามารถผ่านได้อาจเกิดแรงขายทํากําไรระยะสั้นออกมา อย่างไรก็ตามหากราคายังสามารถเคลื่อนไหวเหนือโซนแนวรับระยะสั้นอยู่ที่ 1,635-1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ได้ ประเมินว่าเป็นการอ่อนตัวลงเพื่อสะสมกําลังในช่วงสั้น แนะนํากลยุทธ์การลงทุนโดย เข้าซื้อหากราคาย่อตัวลงไม่หลุดบริเวณ1,635-1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์ (ชะลอการซื้อหากราคาหลุด 1,624 ดอลลาร์ต่อออนซ์) หากราคาดีดตัวขึ้นให้พิจารณาโซน 1,656-1,663 ดอลลาร์ต่อออนซ์เป็นจุดทํากําไร แต่หากผ่านได้ให้ชะลอการขายออกไป
ที่มา ylgbullion.co.th