หลายโรงแรมหรูทั่วโลกเริ่มเลิก “บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า” หันมาเน้นเมนูเชฟปรุงสด ลดขยะอาหาร และสร้างประสบการณ์เฉพาะตัวให้แขกผู้เข้าพัก สะท้อนแนวทางการบริการที่ยั่งยืนและหรูหรายิ่งกว่าเดิม
ทำไมโรงแรมหรูเริ่มเลิกเสิร์ฟบุฟเฟ่ต์อาหารเช้า
- ลด ปริมาณขยะอาหาร ที่เหลือทิ้งจากการทำเมนูจำนวนมาก
- เพิ่ม คุณภาพและเอกลักษณ์ ผ่านเมนูที่เชฟรังสรรค์สดใหม่ (chef-crafted)
- สร้าง ประสบการณ์การพักผ่อนเชิงสุขภาพ เช่น โยคะ หรือสมาธิก่อนมื้อเช้า
- เชื่อมโยงกับ ความยั่งยืนระดับโลก เช่นเป้าหมาย SDGs ของ UN
ตัวอย่างโรงแรมหรูที่ปรับแนวทาง
- Six Senses: จัดอาหารเช้าแบบ market-to-table ใช้วัตถุดิบสดใหม่จากท้องถิ่น
- Anantara: จับมือกับเชฟขนม บาริสต้ากาแฟ หรือที-มาสเตอร์ มอบประสบการณ์เฉพาะตัว
- Aman: เพิ่มกิจกรรมเช้ามงคล เช่น โยคะ หรือการทำสมาธิก่อนอาหาร
- Hilton Group: ตั้งเป้าลดขยะอาหาร 50% ภายในปี 2030
- Tokyo Bay ใช้ AI จัดการครัว
- Singapore ใช้ “ผักหน้าตาไม่สวย” ปรุงอาหาร
- Shenzhen รีไซเคิลเศษอาหารเป็นปุ๋ยหรือพลังงาน
- สาขาในฟิลิปปินส์–อินโดนีเซีย บริจาคอาหารเหลือให้ธนาคารอาหาร
ทางออกใหม่ของ “อาหารเช้าโรงแรม”
- ลดเมนูที่ไม่เป็นที่นิยม
- จัด สเตชันอาหารปรุงสด (made-to-order)
- มี เมนูเสริมเสิร์ฟถึงโต๊ะ เพื่อเพิ่มความหรูหรา
- จัดมุม Grab & Go สำหรับผู้ที่รีบ
- ให้พนักงานสื่อสารกับแขกเพื่อสร้างความเข้าใจเรื่องการลดของเสีย
สรุป
แม้ “บุฟเฟ่ต์อาหารเช้า” จะยังครองใจนักท่องเที่ยวหลายคน แต่โรงแรมหรูทั่วโลกกำลังพิสูจน์ว่า การเลิกบุฟเฟต์ไม่ใช่การลดคุณค่า ตรงกันข้าม การเปลี่ยนมาสู่มื้อเช้าที่ปรุงสด ใส่ใจ และยั่งยืนต่างหาก ที่จะทำให้แขกรู้สึกว่าได้รับการดูแลอย่างแท้จริง