งานวิจัยล่าสุดพบว่า งูพิษยังสามารถปล่อยพิษได้ แม้ตายไปแล้วหลายชั่วโมง เช่น งูเห่าหม้อ และงูทับสมิงคลา แนะประชาชนระวังซากงู เพราะยังเสี่ยงต่อการถูกพิษร้ายแรง
เหตุผลที่งูตายแล้วแต่ยังมีพิษ
นักวิจัยจากวารสาร Frontiers in Tropical Disease อธิบายว่า งูพิษบางชนิดยังคงฉีดพิษได้แม้จะตายแล้ว เนื่องจาก:
- โครงสร้างต่อมพิษ → ต่อมพิษที่เชื่อมกับเขี้ยวยังทำงานได้ หากถูกกดหรือบีบโดยไม่ตั้งใจ
- พิษตกค้างในเขี้ยว → พิษที่ค้างอยู่ในเขี้ยวยังคงออกฤทธิ์ได้
- แรงกดดันทางกลไก → การจับหรือเคลื่อนย้ายซากงูอาจไปกระตุ้นให้ปล่อยพิษออกมา
ตัวอย่างเหตุการณ์จริงที่ถูกบันทึก
- งูเห่าถูกตัดหัว → ชายคนหนึ่งถูกหัวงูที่ขาดแล้วกัดนิ้ว ต้องนอนโรงพยาบาล 20 วัน
- งูเห่าถูกรถไถทับ → ชายอีกคนถูกกัดที่เท้า เกิดอาการบวมและแผลพุพอง
- งูทับสมิงคลา ตายแล้ว 3 ชั่วโมง → กัดเข้าที่มือ ทำให้ผู้ป่วยอัมพาต ต้องรักษาใกล้ชิดกว่า 43 ชั่วโมง
ข้อควรระวัง
- อย่าเข้าใกล้หรือสัมผัสซากงู แม้จะดูเหมือนตายแล้ว
- หากจำเป็นต้องเคลื่อนย้าย ควรใช้ อุปกรณ์ยาว ๆ เช่น ไม้หรือคีม แทนมือเปล่า
- หากถูกกัด ควรรีบนำส่งโรงพยาบาลทันที