ศาลสั่งประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” คดีวางยาฆ่าเพื่อนชิงทรัพย์ อดีตสามีและทนายพัชโดนโทษจำคุก

แอม ไซยาไนด์

รายละเอียดคำพิพากษาคดี “แอม ไซยาไนด์”

วันที่ 20 พฤศจิกายน 2567 ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก มีคำพิพากษาในคดีที่นางสรารัตน์ หรือ “แอม ไซยาไนด์” อายุ 36 ปี ตกเป็นจำเลยที่ 1 ในข้อหาวางยาฆ่าผู้อื่นด้วยสารไซยาไนด์ โดยมีอดีตสามี พ.ต.ท.วิฑูรย์ และทนายพัชเป็นจำเลยร่วมในคดีนี้

ข้อกล่าวหา

  1. แอม ไซยาไนด์ (จำเลยที่ 1):
    • ฆ่าผู้อื่นโดยไตร่ตรองไว้ก่อน
    • ชิงทรัพย์จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
    • ปลอมปนอาหารหรือยาจนเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย
  2. พ.ต.ท.วิฑูรย์ (จำเลยที่ 2):
    • ช่วยเหลือจำเลยที่ 1 ให้พ้นจากความผิด
  3. น.ส.ธันย์นิชา หรือ ทนายพัช (จำเลยที่ 3):
    • ซ่อนเร้นทำลายหลักฐาน

คำพิพากษา

  • แอม ไซยาไนด์: ประหารชีวิต
  • พ.ต.ท.วิฑูรย์: จำคุก 1 ปี 4 เดือน (ไม่รอลงอาญา)
  • ทนายพัช: จำคุก 2 ปี (ไม่รอลงอาญา)
  • ค่าเสียหาย: ศาลสั่งให้จำเลยทั้งสามร่วมกันชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วมเป็นเงิน 2 ล้านบาท

ประเด็นสำคัญในคดี

  1. พยานหลักฐานของฝ่ายโจทก์:
    • ศาลพิจารณาจากหลักฐานที่รวบรวมโดยพนักงานสอบสวน ซึ่งมีความชัดเจนและน่าเชื่อถือ
    • จำเลยที่ 1 ปฏิเสธการให้การต่อศาล ส่งผลให้ศาลรับฟังตามหลักฐานที่ฝ่ายโจทก์นำเสนอ
  2. จุดบอดของคดี:
    • ทนายฝ่ายจำเลยโต้แย้งว่าคดีไม่มีประจักษ์พยานที่เห็นเหตุการณ์ขณะวางยาพิษ
    • แต่ศาลชี้ว่าหลักฐานอื่นๆ เช่น การปลอมปนอาหาร และการชิงทรัพย์ มีน้ำหนักเพียงพอ

ผลกระทบและการตอบรับของคดี

คำพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” เป็นที่จับตามองของสังคม เนื่องจากเป็นคดีที่ซับซ้อนและสะเทือนขวัญ โดยการตัดสินครั้งนี้สะท้อนถึงความเด็ดขาดของกระบวนการยุติธรรม พร้อมส่งสัญญาณถึงการไม่ยอมให้มีการละเมิดชีวิตและทรัพย์สินของผู้อื่นในลักษณะดังกล่าว