นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้เปิดเผยถึงกฏกระทรวงที่กำหนดปริมาณยาเสพติดให้โทษและวัตถุออกฤทธิ์ให้สันนิษฐานว่ามีไว้ในครอบครองเพื่อเสพ ซึ่งประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 9 กุมภาพันธ์ โดยมาตรการนี้เป็นผลมาจากการประชุมร่วมของหน่วยงานรัฐหลายฝ่ายเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2566 ซึ่งได้ข้อสรุปว่าผู้ที่มียาบ้าไม่เกิน 5 เม็ดควรถูกนำไปบำบัดรักษาเป็นผู้ป่วยจิตเวช โดยมีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปีหากไม่ยอมรับการบำบัด ส่วนผู้ที่มียาบ้าเกิน 5 เม็ดถือเป็นการครอบครองเพื่อจำหน่าย มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ถึง 10 ปี
นโยบายนี้ได้รับการสนับสนุนจากกระทรวงสาธารณสุข ที่ย้ำว่า ยาบ้า เป็นยาเสพติดให้โทษที่ห้ามมีไว้ในครอบครอง ห้ามผลิต ห้ามนำเข้า หรือส่งออก และห้ามจำหน่ายไม่ว่าจะกี่เม็ดก็ตาม แต่ยังคงมีการพิจารณาเงื่อนไขเกี่ยวกับจำนวนเม็ดยาบ้าที่ควรครอบครอง เพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริง โดยเน้นย้ำการนำผู้เสพไปบำบัดรักษาเพื่อหายขาดจากการเสพยา
นพ.ชลน่าน ย้ำว่าการดำเนินการนี้ต้องการให้ทุกฝ่ายในสังคมร่วมมือกัน โดยมีการแบ่งหน้าที่กันชัดเจน ตั้งแต่การปราบปรามจับกุมไปจนถึงการบำบัดรักษา และส่งคืนสู่สังคม เพื่อลดปัญหายาเสพติดในสังคมไทย โดยเฉพาะยาบ้า ซึ่งเป็นสาเหตุของปัญหาจิตเวชและความรุนแรงในครอบครัวและสังคม
นโยบายนี้เป็นการเปลี่ยนมุมมองจากการมองผู้เสพเป็นผู้กระทำผิด เป็นการมองผู้เสพเป็นผู้ป่วยที่ต้องการการบำบัดรักษา เพื่อให้กลับคืนสู่สังคมได้อย่างมีคุณภาพและไม่กลับไปเสพยาอีก