HIV คืออะไร?
HIV (Human Immunodeficiency Virus) คือเชื้อไวรัสที่ทำลายระบบภูมิคุ้มกันของร่างกาย เมื่อเชื้อนี้เข้าสู่ร่างกาย จะค่อย ๆ ทำให้ภูมิคุ้มกันอ่อนแอลง จึงติดเชื้อหรือเจ็บป่วยง่ายกว่าคนทั่วไป แต่หากตรวจพบเร็วและเริ่มยาต้านไวรัสอย่างต่อเนื่อง จะช่วยควบคุมปริมาณเชื้อจน “ไม่สามารถแพร่เชื้อ” ไปสู่ผู้อื่นได้
AIDS คืออะไร?
AIDS (Acquired Immunodeficiency Syndrome) คือระยะที่ภูมิคุ้มกันถูกทำลายอย่างหนักจากเชื้อ HIV ทำให้ร่างกายป่วยง่าย ติดเชื้อฉวยโอกาส เช่น วัณโรค ปอดอักเสบ เชื้อราในสมอง ฯลฯ ปัจจุบันหากผู้ติดเชื้อ เข้ารับการรักษาตั้งแต่เนิ่น ๆ ก็แทบจะไม่พัฒนาไปถึงระยะเอดส์แล้ว
รักษา HIV ได้หรือไม่?
แม้ยังไม่มีวิธีรักษาให้หายขาด แต่ ยาต้านไวรัส (ARV) ช่วยกดปริมาณเชื้อให้ต่ำจนตรวจไม่พบ ผู้ติดเชื้อสามารถ
- ใช้ชีวิต ทำงาน และมีครอบครัวได้ปกติ
- ไม่แพร่เชื้อให้ผู้อื่นเมื่อรักษาต่อเนื่องครบ 3 เดือน
- มีทางเลือกยาป้องกัน (PrEP/PEP) สำหรับคนที่มีความเสี่ยง
HIV กับ AIDS ต่างกันอย่างไร?
- HIV = เชื้อไวรัส ที่ทำลายภูมิคุ้มกัน
- AIDS = ระยะป่วยหนักสุด จากการติดเชื้อ HIV ที่ไม่ได้รักษา
- ยาต้านไวรัสช่วยควบคุมโรค ใช้ชีวิตได้ใกล้เคียงปกติ
- รักษาครบ 3 เดือน → ไม่แพร่เชื้อ
- ไทยมีสายด่วน 1330, 1663 และชุดตรวจ HIV ด้วยตนเอง
สรุป
HIV ไม่เท่ากับ AIDS หากตรวจพบเร็ว รักษาต่อเนื่องด้วยยาต้านไวรัส ผู้ติดเชื้อก็สามารถมีคุณภาพชีวิตที่ดี ปลอดภัยต่อคนรอบข้าง และไม่พัฒนาไปสู่ระยะเอดส์ การรู้เท่าทันและเข้าถึงการตรวจ–รักษาเร็วที่สุด คือกุญแจสำคัญที่จะทำให้สังคมไทย “ไร้เอดส์” ในอนาคต