หลายๆ คนที่ตอนนี้กำลังมีความคิดว่าอยากจะลดน้ำหนักอาจเคยได้ยินเรื่องราวเกี่ยวการบริโภคแป้งมาบ้าง ว่าอาหารจำพวกแป้ง หรือข้าวที่เรารับเข้าสู่ร่างกายนั้นจะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นน้ำตาลเพื่อกลายเป็นพลังงานให้เราใช้ในการทำกิจกรรมในแต่ละวัน และตัวน้ำตาลนี่เองก็เป็นสาเหตุที่ทำให้อ้วน หรือเกิดการสะสมมากจนเกิดความจำเป็นที่ร่างกายจะเรียกไปเผาผลาญได้ เมื่อมีมากๆ เข้าก็อาจส่งผลเสียต่อสุขภาพได้ ซึ่งในความเป็นจริงแล้ว การบริโภคอาหารจำพวกแป้งในแต่ละวันเป็นเรื่องที่จำเป็น เนื่องจากแป้ง หรือคาร์โบไฮเดรตนั้นก็เป็นหนึ่งใน 5 หมู่ของอาหารที่ร่างกายต้องการ แล้วอย่างนี้ ถ้าเราเลี่ยงที่จะกินแป้งไป จะส่งผลเสียต่อร่างกายของเรายังไงกันนะ ?
ทำไม ‘แป้ง’ จึงสำคัญต่อร่างกาย ?
อย่างที่บอกไปในตอนแรกว่า แป้ง หรือ คาร์โบไฮเดรต เป็นหนึ่งใน 5 หมู่ของสารอาาหารที่ร่างกายมีความจำเป็นต้องได้รับในแต่ละวัน เมื่อคาร์โบไฮเดรตเข้าสู่ร่างกาย ก็จะเปลี่ยนตัวเองไปเป็นน้ำตาลกลูโคส ช่วยให้พลังงานในการทำกิจกรรมต่างๆ ทั้งเดิน วิ่ง ทำงาน หรือออกกำลังกาย หากเราไม่ได้รับคาร์โบไฮเดรตที่เพียงพอในแต่ละวัน นั่นหมายความว่าเราอาจไม่มีแรงที่จะทำอะไรเลยก็เป็นได้ บางครั้ง ก็อาจทำให้อาการหิวจัด มือสั่น อยากเติมความหวาน แน่นอนว่าการหักดิบไม่กินข้าวเลยนั้นไม่แนะนำ
หากขาด ‘แป้ง’ ไป ก็อาจเป็นอันตรายได้ ?
ลองคิดดูกันเล่นๆ ว่าถ้าเราไม่กินอาหารจำพวกแป้ง หรือน้ำตาลเลย ร่างกายของเราจะเป็นอย่างไร ? อันดับแรกเลย คือ ร่างกายจะไม่มีแรงในการทำกิจกรรมใดๆ เพราะก็บอกแล้วว่าแป้งเป็นแหล่งสร้างพลังงานชั้นดีให้กับร่างกาย เมื่อขาดไป ร่างกายก็จะไปหาพลังงานจากส่วนอื่นๆ มาเผาผลาญแทน โดยจะดึงเอาไขมันและโปรตีนที่อยู่ในร่างกายเนี่ยแหละมาใช้งานก่อน ข้อดี คือ เราอาจจะผอมลงอย่างเห็นได้ชัด แต่ข้อเสีย คือ ไขมันและโปรตีนเป็นส่วนที่ช่วยในการสร้างกล้ามเนื้อ คอยสร้างความชุ่มชื้นให้กับผิวหนัง เมื่อเจ้าพวกนี้คอยถูกดึงมาใช้งานอยู่เรื่อยๆ ผิวหนังของเราก็จะขาดความชุ่มชื้น กล้ามเนื้ออาจลีบแบบ ร่างกายซูบผอม บางคราวก็อาจเหี่ยวย่นไปเลย
นอกจากนั้น เมื่อร่างกายขาดสารอาหารที่จำเป็นไป ระบบการทำงานในร่างกายก็อาจไม่เป็นปกติ ภูมิคุ้มกันอาจบกพร่อง โรคต่างๆ ก็อาจมารุ้มเร้าได้ง่าย นับว่าเป็นอันตรายอย่างมาก เพราะในยามที่ร่างกายของเราอ่อนแอลง แบคทีเรีย เชื้อโรค หรือไวรัสก็จะเข้ามาเจริญเติบโตและทำให้เราเกิดโรคต่างๆ ได้ง่ายขึ้น
กิน ‘แป้ง’ เท่าไหร่ถึงจะพอดี ?
ถึงแม้ว่าเราอยากจะลดแป้งเพื่อรูปร่างที่ดีขึ้นขนาดไหน แต่ร่างกายก็ยังมีความจำเป็นต้องได้รับสารอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตอยู่ แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะกินเท่าไหร่ก็ได้ ต้องมีการจำกัดปริมาณในการบริโภค ไม่แนะนำให้งดกิน ควรกินให้อยู่ในปริมาณที่เหมาะสม สำหรับคาร์โบไฮเดรตที่แนะนำให้บริโภค ได้แก่ ข้าวที่ไม่ได้ขัดสี หรือขัดสีน้อย อาทิ ข้าวซ้อมมือ ข้างกล้อง ต่อมาก็เป็นขนมปังที่ไม่ฟอกขาว อาทิ ขนมปังโฮลวีท ไปจนถึงผักและผลไม้ที่มีรสหวานน้อย มีกากใยอาหารเยอะ อาทิ ข้าวโพด มันเทศ ซึ่งอาหารเหล่านี้รสชาติก็ไม่ถึงกับแย่ ทั้งยังดีต่อร่างกาย
การกินแป้งในแต่ละมื้อ 1 มื้อกินได้ประมาณ 1 กำปั้นมือ โดยกินให้ครบ 3 มื้อ ส่วนมื้อเย็นก็ให้บริโภคในปริมาณที่น้อยลง เพิ่มเนื้อสัตว์และผักผลไม้เข้ามาทดแทน ไม่แนะนำให้งดแป้งและน้ำตาลอีกเช่นเคย ซึ่งน้ำก็ไม่ควรบริโภคเกินวันละ 6 ช้อน เนื่องจากร่างกายจะนำเอาน้ำตาลไปใช้ไม่ทัน จนเกิดการสะสมภายในตับ อาจทำให้เกิดตับอักเสบได้ ซึ่งเป็นสาเหตุส่วนหนึ่งของตับแข็ง ส่วนน้ำตาลที่เกิดนมาก็จะกลายไปเป็นไขมันสะสมอยู่ตามพุงของเรา
นอกจากการควบคุมปริมาณแป้งและน้ำตาลที่บริโภคแล้ว สิ่งสำคัญที่จะลืมไม่ได้เลย คือ การออกกำลังกาย เพื่อเผาผลาญพลังงานส่วนเกิน รับรองได้ว่า หากปฏิบัติตามคำแนะนำ รูปร่างของเราก็จะออกมาดี รวมถึงยังได้สุขภาพร่างกายที่แข็งแรงอีกด้วย